Call Us: 099-562-4446
Line ID: @treesurang
Follow Us:

บทความ:

การฉีดสเต็มเซลล์ (MSC Stem Cell) ที่ไหนดี

การฉีดสเต็มเซลล์ (MSC Stem Cell)

สเต็มเซลล์ (Stem Cell) คือ เซลล์ธรรมชาติที่มีลักษณะหลายเซลล์และอยู่ในสิ่งมีชีวิต ทั้งในมนุษย์ พืช รวมทั้ง สัตว์ เกือบทุกชนิด สเต็มเซลล์ประกอบด้วยหลายเซลล์ มีต้นกำเนิดมาจากเซลล์หนึ่ง โดยเริ่มต้นจากเซลล์เดียวที่มีการผสมพันธุ์ระหว่างเพศผู้และเพศเมีย พัฒนาไปเป็นหลายเซลล์และพัฒนาอีกไปเป็นอวัยวะ เซลล์ที่เป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต ซึงเรียกว่า “สเต็มเซลล์”

เลือกอ่านหัวข้อการฉีดสเต็มเซลล์ (MSC Stem Cell) ที่ไหนดี

สเต็มเซลล์ (MSC Stem Cell) คืออะไร?

สเต็มเซลล์ MSC Stem Cell หรือ Mesenchymal Stem Cell คือ เซลล์ ต้นกำเนิดที่มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้ดี และยังสามารถนำไปใช้กับผู้อื่นได้ โดยไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของผู้รับด้วย มีคุณสมบัติในการช่วยชะลอวัย รวมไปถึงช่วยในการบำบัดรักษาโรค ในวัยผู้สูงอายุที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายอย่างล้ำลึกและรวดเร็ว การฉีด Stem Cell เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีและปลอดภัย เพราะ Stem Cell ช่วยซ่อมเซลล์ ชลอความเสื่อมของร่างกาย และเซลล์จะเข้าไปทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพหรือตายไปแล้ว ให้มีประสิทธิภาพฟื้นฟูส่วนต่างๆ ที่สึกหรอของร่างกาย

สเต็มเซลล์สามารถนำมาจากที่ไหนได้บ้าง?

การจัดเก็บสเต็มเซลล์สามารถเก็บได้จากแหล่งกำเนิด 4 แหล่ง คือ

  • เลือดสายสะดือ Cord Blood (CB)
  • เนื้อเยื่อสายสะดือ Cord Tissue (CT)
  • เนื้อเยื่อหุ้มรก Amnion Tissue (AT)
  • และเนื้อเยื่อไขมัน Adipose Tissue (ADSC)

สเต็มเซลล์ (MSC Stem Cell) นำมาใช้กับความงามได้อย่างไร?

สเต็มเซลล์ (MSC Stem Cell) เป็นนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงเซลล์ในห้องแล็บที่ผ่านมาตรฐานการรับรอง และงานวิจัยจากสถาบันในอเมริกา โดยมีเซลล์ต้นกำเนิดมาจากสายสะดือ Cord Blood (CB) ของเด็กทารกแรกเกิดซึ่งเป็นเซลล์ที่ยังมีชีวิตอยู่

  • ช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์เดิมที่เสื่อมสภาพลงไปแล้ว
  • ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส เปล่งปลั่ง นุ่มลื่นขึ้น
  • คืนความชุ่มชื้นให้ผิว ชะลอการเกิดริ้วรอย
  • กระตุ้นคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น มีน้ำมีนวล
  • ลดจุดด่างดำ รอยสิว ฝ้า กระ

โดยทั่วไปแล้ว สเต็มเซลล์ (Stem Cell) ที่ใช้ในการรักษาจะมาจากสายสะดือ แต่เพราะมีปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณที่ต้องใช้ในการรักษา ทำให้ต้องเพาะเลี้ยง Stem Cell ขึ้นมาเองในห้องห้องแลป เพื่อเพิ่มจำนวนให้เพียงพอต่อการใช้ แต่เมื่อมีการขยายจำนวนจะยิ่งทำให้ความเข้มข้นของ Stem Cell ลดลงตามไปด้วย

สเต็มเซลล์มีทำหน้าที่อย่างไร?

  • ลดริ้วรอยและรักษารอยแผล ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์อย่างชัดเจน
  • ซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ เช่น ซ่อมแซมเซลล์ผิว
  • เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis)
  • กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระและสร้างคอลลาเจน
  • เพิ่มเซลล์ Fibroblasts ซึ่งเป็นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ให้กับผิวของเรา

ข้อดีของการทำสเต็มเซลล์ (MSC Stem Cell)

  • ชะลออายุผิว ให้ผิวดูอ่อนเยาว์
  • ฟื้นฟูผิว ช่วยให้ริ้วรอยตื้นจางลง
  • คืนความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • ช่วยให้ผิวกระชับ
  • ใช้เวลา 30 นาที
  • ควรทำซ้ำทุก 6 เดือน – 1 ปี
  • เห็นผลภายใน 2-3 เดือน

ตำแหน่งที่สามารถฉีด สเต็มเซลล์ MSC Stem Cell ได้

ตำแหน่งที่สามารถฉีด สเต็มเซลล์ MSC Stem Cell ได้

  • ฉีดสเต็มเซลล์ เข้าผิวหน้า : เพื่อลดริ้วรอยบนใบหน้า กระชับรูขุมขน ลดความหมองคล้ำ
  • ฉีดสเต็มเซลล์ เข้าหลอดเลือดดำ : เพื่อฟื้นฟู และเสริมสร้างเซลล์ผิวให้กระชับ ช่วยปรับสมดุลให้กับผิว

สเต็มเซลล์ (Stem Cell) แบ่งตามคุณสมบัติในการแบ่งตัว

1. Hematopoietic Stem Cells (HSCs)

เป็น สเต็มเซลล์ (Stem Cell) ของระบบเลือดที่มีคุณสมบัติในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ต่างๆ ในระบบเลือด โดยในการนำเนื้อเยื่อไปใช้ จะต้องเข้ากันได้ระหว่างผู้ให้และผู้รับ ซึ่งจะมีโอกาสถึง 1 ใน 4 ที่เนื้อเยื่อจะมีความเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ในกลุ่มเม็ดเลือดต่างๆ

  • เซลล์เม็ดเลือดแดง (Red Blood Cells)
  • เซลล์เม็ดเลือดขาว (White Blood Cells)
  • เกล็ดเลือด (Platelets)

2. Mesenchymal สเต็มเซลล์ Stem Cells (MSCs)

มีคุณสมบัติในการแบ่งตัวและเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้มากมาย เช่น

  • เนื้อเยื่อตับ (Liver Tissue)
  • เนื้อเยื่อหัวใจ (Heart Tissue)
  • เนื้อเยื่อประสาท (Nerve Tissue)
  • เนื้อเยื่อกระดูก (Bone Tissue)
  • เนื้อเยื่อกระดูกอ่อน (Cartilage Tissue)
  • เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ (Muscle Tissue)
  • เนื้อเยื่อไขมัน (Fat Tissue)

ประโยชน์ของ สเต็มเซลล์ (STEM CELL)

  • ใช้ในการรักษา และฟื้นฟูโรคต่าง ๆ ให้กับตัวเอง และคนในครอบครัว
  • ใช้ในการฟื้นฟูความเสื่อม ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ และความงาม

ประโยชน์ด้านการฟื้นฟูความงาม

สเต็มเซลล์ Stem Cell จากเนื้อเยื่อไขมัน Adipose Tissue ที่มีความสามารถในการฟื้นฟูความเสื่อมต่างๆ โดยผู้ที่จะทำการฉีดเข้าสู่ร่างกายจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ สเต็มเซลล์ Stem Cell จากเนื้อเยื่อไขมันเข้าไปฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ และเติมเต็มส่วนที่ขาดบนร่างกายได้ รวมถึงใบหน้าของผู้ที่เข้ารับการ Stem Cell ด้วย

การเก็บสเต็มเซลล์ Stem Cell จากเนื้อเยื่อไขมัน เพื่อนำมาใช้ในการฟื้นฟูผิวพรรณและความงาม จะเก็บได้จากบุคคลทั่วไป และคุณเเม่หลังคลอด โดย สเต็มเซลล์ Stem Cell จากไขมันจะเป็นการเก็บเพียงครั้งเดียวแต่นำมาใช้ได้หลายครั้ง และจะสามารถใช้ได้กับเจ้าของสเต็มเซลล์เท่านั้น

ขั้นตอนการฉีด สเต็มเซลล์ (MSC STEM CELL) มีอะไรบ้าง?

1. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์มากกว่า 10 ปี

คุณหมออ๊อมจะทำการประเมินสภาพผิวในเชิงลึก ว่าต้องกำหนดจำนวนเซลล์ที่ต้องใช้ในการฉีดกี่ล้านเซลล์ ซึ่งจำนวนเซลล์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละท่าน

2. การสั่ง สเต็มเซลล์ (MSC STEM CELL)

จะใช้เวลา 3-7 วัน สเต็มเซลล์ที่ถูกเลี้ยงในภาวะที่เหมาะสม จะถูกทางแลปคัดเลือกสเต็มเซลล์แบบสดใหม่ และเป็นเซลล์ที่มีชีวิต (Live Stem Cell)

3. ก่อนฉีดสเต็มเซลล์ (MSC STEM CELL)

จะมีการแปะยาชาประมาณ 45-60 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์

4. ฉีดสเต็มเซลล์ (MSC STEM CELL) เข้าสู่ชั้นผิว ด้วยเครื่อง "Vital injector 3"

นวัตกรรมใหม่ตัวล่าสุดจากเกาหลี สามารถปรับความลึกของเข็มได้ละเอียดถึง 0.2 มิลลิเมตร โดยทำงานร่วมกับระบบสูญญากาศทำให้เกิดความแม่นยำ และการฉีดที่หน้าหลายๆครั้ง จะเป็นการกระตุ้นผิวหนังให้มีการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น และคนไข้จะแทบไม่มีอาการเจ็บและใช้เวลาน้อยในการฉีดทั้งหน้า

ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดสเต็มเซลล์ (MSC STEM CELL)

  • งดล้างหน้าโดนน้ำเป็นเวลา 12ชั่วโมง
  • หลังการฉีด ให้งดโดนแดดจัดๆ เป็นเวลา 12ชั่วโมง
  • งดการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะๆ เช่น การออกกำลังกายหนักๆ หรือการทำงานที่ต้องใช้แรงหนักๆ อย่างน้อย 1-2 วันหลังฉีด
  • หลังฉีดสเต็มเซลล์ Stem Cell ให้ดื่มน้ำเยอะๆ หรือดื่มน้ำหวานเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย

ฉีดสเต็มเซลล์ (MSC STEM CELL) ต่างจากฟิลเลอร์และโบทูลินั่มท๊อกซิน (Botox) อย่างไร?

การฉีดสเต็มเซลล์ (MSC STEM CELL) ต่างจากฟิลเลอร์และโบทูลินั่มท๊อกซิน โดยฟิลเลอร์หลังจากฉีดฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม หลังฉีดจะมีการเปลี่ยนแปลงตรงบริเวณที่ลึก หรือมีความหย่อนคล้อยจะเห็นผลเติมเต็มทันที ส่วนโบทูลินั่มท๊อกซิน (Botox) หลังจากทำการฉีดจะเห็นผลทำให้กล้ามเนื้อและริ้วรอย ลดลง ช่วง 2-4 สัปดาห์ แต่ใน STEM CELL จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอย่างชัดเจนแบบโบทูลินั่ม และ ฟิลเลอร์

รีวิวจากผู้รับบริการสเต็มเซลล์ (MSC STEM CELL)

ด้วยฝีมือของ “หมออ๊อม” หรือ พญ.ตรีสุรางค์ ลิ้มไพบูลย์ ที่มีใบ Certificate รับรองมากมายจากทั้งในและต่างประเทศ

สรุป

สเต็มเซลล์ (Stem Cell) กับการชะลอวัยของผิวพรรณ

การฉีดสเต็มเซลล์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป และมีสภาพผิวที่อ่อนแอ ผ่านการทำทรีตเม้นต์ ฉีดเมโส หรือการรักษามาหลายอย่างแล้วไม่ได้ผล ผลของ Stem Cell จะเข้าไปฟื้นฟูผิวลงลึกถึงระดับเซลล์ (Cellular Level) ทำให้ผิวแข็งแรงเพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ขาดความเต่งตึงไม่ว่าจะมีสาเหตุเนื่องจากวัยที่เพิ่มมากขึ้นหรือจากปัจจัยกระตุ้นภายนอกก็ตาม ทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาผิวพรรณที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตตามหลักการของเวชศาสตร์ชะลอวัย แต่เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและเห็นผลอย่างชัดเจน จะต้องมีการดูแลเอาใจใส่ผิวพรรณอย่างต่อเนื่อง เพื่อสุขภาพผิวที่ดีอย่างยั่งยืน ดังนั้น สเต็มเซลล์ Stem Cell จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเสริมความงาม และมีความปลอดภัยสูง หากใครที่สนใจสามารถเข้ามาปรึกษา ที่ ตรีสุรางค์ คลินิก ได้นะคะ เรามีแพทย์และทีมงานมากประสบการณ์คอยให้บริการอยู่ค่ะ

แผนที่ตรีสุรางค์คลินิก สาขา โลเคชั่น google

วีดีโอการฉีดสเต็มเซลล์ (MSC STEM CELL)

บทความที่เกี่ยวข้อง..

ตรีสุรางค์ คลินิก

“ตรีสุรางค์คลินิก สวย สั่ง ได้ ตามใจคุณ”

ติดต่อเรา
  • Phone: 099-562-4446 : มหาชัย
  • Phone: 064-451-4664 : ลาดพร้าว 62
  • Email: treesurang034440243@gmail.com
  • สาขามหาชัย : 11.00 - 20.00 น. หยุดวันพุธ
    สาขาราชบุรี : 12.00 - 20.30 น. หยุดวันอังคาร
    สาขาลาดพร้าว62 : 12.00 - 20.00 น. หยุดวันจันทร์
ส่งข้อความหาเรา

Copyright © 2024 Treesurang Clinic. All right reserved.